ในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทั้งในเรื่องงาน การเดินทาง หรือชีวิตประจำวัน หลายคนเลือกพกแบตสำรองติดตัวไว้เสมอ แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่เมื่อแบตใกล้หมด มักมองหา “พอร์ตชาร์จ USB ฟรี” ตามห้าง สนามบิน โรงแรม หรือจุดให้บริการสาธารณะต่าง ๆ เพื่อเติมพลังให้โทรศัพท์แบบง่าย ๆ โดยไม่รู้เลยว่า…
พฤติกรรมที่ดูไม่อันตรายนี้ อาจทำให้ข้อมูลในมือถือถูกขโมยไปได้แบบไม่รู้ตัว

🔍 รู้ไหม? แค่เสียบสายชาร์จ ก็อาจเสียข้อมูล
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า พอร์ต USB ที่เราใช้ชาร์จแบตนั้น ไม่ใช่แค่ส่งไฟฟ้า แต่ยังสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้เหมือนการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
ถ้าช่องเสียบนั้นถูกฝัง “โปรแกรมแอบดึงข้อมูล” เอาไว้ เมื่อคุณเสียบสายเข้าไป
มือถือของคุณอาจ
- ถูกดูดรูปภาพ วิดีโอ รายชื่อผู้ติดต่อ หรืออีเมล
- ถูกขโมยรหัสผ่าน หรือข้อมูลเข้าสู่ระบบต่าง ๆ
- ถูกติดตั้งแอปสอดแนมแบบที่คุณไม่รู้ตัว
และที่น่ากลัวที่สุดคือ คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกอย่างเงียบสนิท!
🔔 หน่วยงานความปลอดภัยในต่างประเทศเตือนจริง
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานด้านความปลอดภัยการเดินทางของสหรัฐอเมริกา (TSA) ได้ออกประกาศเตือนผู้เดินทางให้ หลีกเลี่ยงการใช้พอร์ตชาร์จ USB สาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว
เนื่องจากพบรูปแบบการโจมตีแบบใหม่ที่สามารถหลอกให้ผู้ใช้งาน “กดยินยอม” ให้เชื่อมต่อข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ แค่แตะ “อนุญาต” บนหน้าจอเพียงครั้งเดียว ก็เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงโทรศัพท์ของคุณได้แล้ว
❗ ทำไมช่องชาร์จ USB ถึงเสี่ยง?
หลายคนมองว่าการโดนแฮ็กต้องมาจาก Wi-Fi ฟรี หรือแอปปลอมเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ช่องเสียบชาร์จ USB ที่ดู “ไม่มีอะไร” กลับกลายเป็นจุดเสี่ยงที่สุด เพราะ
- USB คือช่องที่ส่ง “ทั้งไฟและข้อมูล”
- ไม่รู้ว่าใครเป็นคนติดตั้งพอร์ตชาร์จนั้น
- ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ามีการฝังโปรแกรมแอบไว้หรือไม่

✅ วิธีป้องกันง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้
เพื่อไม่ให้ข้อมูลของคุณตกเป็นเป้าหมายโดยไม่รู้ตัว เราขอแนะนำวิธีป้องกันที่ทำได้จริงและไม่ยุ่งยาก:
- พกพา Power Bank ติดตัวเสมอ
ใช้พลังงานจากแหล่งที่คุณมั่นใจ ปลอดภัยที่สุด - ใช้สายชาร์จและหัวชาร์จของตัวเอง
หลีกเลี่ยงการใช้สายชาร์จที่มีคนให้ยืมหรือเสียบไว้ก่อนหน้า - หลีกเลี่ยงพอร์ต USB สาธารณะ
โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาได้ เช่น ป้ายรถเมล์ ล็อบบี้โรงแรม หรือโต๊ะอาหาร - ใช้ “USB Data Blocker”
อุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยตัดสัญญาณข้อมูล เหลือแค่พลังงานไฟฟ้าในการชาร์จเท่านั้น - ถ้าโทรศัพท์ขึ้นแจ้งเตือนให้เชื่อมต่อข้อมูล ให้เลือก “ชาร์จเท่านั้น” และ อย่าอนุญาตการเข้าถึงข้อมูล
- อัปเดตระบบและแอปพลิเคชันเสมอ
เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว
🔐 สรุป “ฟรี” ไม่ได้แปลว่า “ปลอดภัย”
แม้ว่าจะยังไม่พบเหตุการณ์แพร่หลายมากนัก แต่การโจมตีผ่านพอร์ตชาร์จ USB เริ่มเกิดขึ้นจริงในหลายประเทศ และกำลังเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ถูกใช้มากขึ้น เพราะมัน “แนบเนียน” และ “มองไม่เห็น” ดังนั้น สำหรับคนที่เดินทางบ่อย ทำงานนอกสถานที่ หรืออยู่กับมือถือทั้งวัน แค่ระวังมากขึ้นอีกนิด ก็ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้มาก
SKY ICT ขอเตือนให้ทุกคนอย่าประมาท เพราะภัยไซเบอร์ไม่ได้มาพร้อมเสียงเตือน แต่บางครั้ง…มันแฝงตัวมากับสิ่งที่เราคิดว่า “ไม่มีอะไร” อย่างพอร์ตชาร์จธรรมดานี่แหละ
อย่าปล่อยให้ความสะดวกชั่วคราว แลกกับข้อมูลที่สำคัญของทั้งชีวิต