สนามบินเปรียบเสมือนเมืองขนาดย่อมที่มีชีวิตและมีความซับซ้อนสูง ทุกๆ นาทีมีการเคลื่อนไหวของเครื่องบินหลายร้อยเที่ยวบิน ผู้โดยสารหลายหมื่นคน และกระเป๋าเดินทางอีกนับแสนใบ การบริหารจัดการ “เมือง” แห่งนี้ด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมกำลังจะถึงทางตัน ในยุคที่ข้อมูลคือขุมทรัพย์ที่ล้ำค่าที่สุด เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสนามบินให้กลายเป็น “สนามบินอัจฉริยะ” (Smart Airport) ที่สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความท้าทายของการบริหารสนามบินในยุคดิจิทัล ความล่าช้าของเที่ยวบิน, ความแออัดของผู้โดยสาร, หรือการขัดข้องของอุปกรณ์สำคัญ ล้วนเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่และมีต้นทุนมหาศาล การแก้ไขปัญหาแบบ “ตั้งรับ” หรือรอให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นก่อนนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป สนามบินยุคใหม่ต้องการเครื่องมือที่สามารถ “คาดการณ์” และ “วางแผน” ล่วงหน้าได้
AI และ Data Analytics ปลดล็อกศักยภาพสนามบินได้อย่างไร?
1. Predictive Maintenance ทำนายการซ่อมบำรุงก่อนเกิดปัญหา
ระบบต่างๆ ในสนามบิน เช่น สายพานลำเลียงกระเป๋า, สะพานเทียบเครื่องบิน, หรือระบบไฟฟ้า ล้วนมีความสำคัญต่อการดำเนินงาน AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ (IoT) ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อเรียนรู้รูปแบบการทำงานปกติ และสามารถตรวจจับสัญญาณความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าอุปกรณ์นั้นใกล้จะขัดข้อง ทีมซ่อมบำรุงจึงสามารถเข้าไปดูแลรักษาได้ “ก่อน” ที่จะเกิดปัญหาจริง ช่วยลด Downtime และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

2. Optimized Resource Allocation
จัดสรรทรัพยากรอย่างชาญฉลาดที่สุด AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-
- Gate Allocation: จัดสรรหลุมจอดให้เหมาะสมกับขนาดเครื่องบินและเวลาที่ต้องการ ลดปัญหารถบัสรับส่งผู้โดยสาร และลดเวลา Taxi ของเครื่องบินบนภาคพื้น
- Check-in Counter & Staffing: ทำนายปริมาณผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา เพื่อเปิดเคาน์เตอร์เช็คอินและจัดสรรพนักงานได้อย่างเหมาะสม ลดปัญหารอคิวนาน
- Baggage Handling: จัดการเส้นทางของสายพานลำเลียงกระเป๋าให้มีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาที่ผู้โดยสารต้องรอกระเป๋าที่ปลายทาง
3. Passenger Flow Analysis: สลายคอขวด เพิ่มความลื่นไหล
ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและเซ็นเซอร์ต่างๆ ผู้บริหารสนามบินสามารถเห็นภาพรวมความหนาแน่นของผู้โดยสารทั่วทั้งอาคารได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถระบุ “พื้นที่คอขวด” (Bottlenecks) และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที เช่น การเปิดช่องตรวจความปลอดภัยเพิ่ม หรือการจัดระเบียบแถวบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง

ข้อมูลในสนามบินนั้นมีอยู่มหาศาล แต่จะไร้ความหมาย หากไม่มีระบบที่สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และแปลงให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Actionable Insights) เพื่อใช้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว—ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสนามบินอัจฉริยะในยุคใหม่
