โลกของเราได้มีเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วย ผู้พิการให้สามารถรับรู้ข่าวสารและสื่อสารถึงกันได้เหมือนกับปกติคนทั่วไปได้แล้วนะครับ ด้วยระบบ Voice Over และ Accesability ที่มีฟังก์ชัน Screen Reader ในทุกระบบปฏิบัติการทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาอ่านตัวอักษรและอ่านคำอธิบายภาพบนหน้าจอได้เกือบทุกภาษา ทำให้พวกเขารับรู้ข่าวสารและสื่อสารถึงกันได้เหมือนคนทั่วไป และยังไปไกลยิ่งกว่านั้นอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียวครับ
ปัญหาของอุตสาหกรรม AI กำลังขาดแคลนกำลังคน ทางด้านผู้พิการทางสายตาก็ประสบปัญหาไม่มีงานทำ แต่บริษัทเทคโนโลยีไทยอย่าง Vulcan Coalition เป็นเจ้าแรกของโลกที่มองเห็นศักยภาพพิเศษของผู้พิการ จึงคิดโมเดลธุรกิจสร้างสรรค์ที่ดึงศักยภาพพิเศษของผู้พิการออกมาเหนือกว่ามนุษย์ปกติประหนึ่งซุปเปอร์ฮีโร่เลยทีเดียวครับ
โดยอ้างอิงผลวิจัย Brain Rewind ซึ่งศึกษาพบว่าสมองของผู้พิการทางสายตาจะประมวลผลการได้ยินเสียงได้ดีกว่าคนปกติถึง 2 เท่า เพราะร่างกายจะเปลี่ยนพื้นที่สมองส่วนประสาทการมองเห็นที่ไม่ได้ใช้งาน มาเพิ่มประสิทธิภาพประสาทสัมผัสส่วนอื่นๆแทน ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานพบว่า ผู้พิการเพียง 3 คน ทำงานได้เหมือนพนักงานปกติ 100 คน เลยทีเดียวครับ
ผู้พิการฝึกสอน AI ได้อย่างไร?
คุณเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ ผู้ก่อตั้งบริษัท Vulcan Coalition ได้เปิดอบรมผู้พิการทางสายตาให้เข้ามาช่วยพัฒนา Speech AI ทั้ง Text to Speech อ่านออกเสียงตัวอักษรจากไฟล์ดิจิทัล และ Speech to Text ระบบออกคำสั่งผ่านเสียง อย่างเช่น แอปพลิเคชัน Smart Home ของ SC ASSET ขั้นตอนการทำงานไม่ยากและไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษา AI พวกเขาเพียงฟังและพิมพ์ข้อมูลภาษาไทยป้อนลงไปในระบบให้ตรงกับเสียงพูด รวมไปถึงบันทึกคำอ่านสำเนียงต่างๆ เก็บลงในฐานข้อมูลเสียง และแบ่งหมวดหมู่เสียงจัดลง Data Library ให้เป็นระเบียบเพื่อให้ Machine Learning เรียนรู้และเชื่อมโยงข้อมูลตัวอักษรเข้ากับข้อมูลเสียง จนสามารถนำมาสร้างเสียงสังเคราะห์ให้ออกมาเป็นประโยคใหม่ได้อัตโนมัติตามที่เราพิมพ์ข้อความลงไป
ภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูลเสียงมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?
ในอนาคตหากธุรกิจไหนอยากใช้ AI ให้บริการตอบคำถามลูกค้าได้ลื่นหู พูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่ามนุษย์ และเลือกได้ว่าจะพูดด้วยภาษาสุภาพหรือเป็นกันเอง หรือจะใช้พากษ์เสียงโฆษณา และทำหนังสือเสียงที่เป็นมากกว่าการอ่านคำบรรยายด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ร่วม แต่สามารถสร้างคาแรกเตอร์เสียงตัวละคร ใส่น้ำเสียงได้ตามบทบาท เพื่อจำลองบทสนทนาขึ้นมาได้อย่างสมจริง ซึ่งหากคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว อาจใช้ต้นทุนที่ถูกกว่าจ้างนักพากษ์หลายๆ คนมาอัดเสียง และลดกระบวนการการทำงานที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ทำให้จบงานได้ไวขึ้น สามารถสั่งแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงเวอร์ชันใหม่ได้ง่ายดายขึ้น
Career Path นั้นดีต่อใจและคุณภาพชีวิตของผู้พิการอย่างไร?
การสนับสนุนให้ผู้พิการเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดแรงงาน จะช่วยสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองที่มีงานทำ มีรายได้มาดูแลตนเอง และจุนเจือครอบครัว การได้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในสังคมนั้นมีความหมายต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครอยากเป็นเพียงบุคคลน่าสงสารที่ต้องพึ่งพาสังคมสงเคราะห์ตลอดไป
จากประสบการณ์ของผู้พิการในอดีต มักรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่านักในองค์กร การตอบรับผู้พิการเข้าทำงานตามกฎหมายบังคับ โดยไม่ปรับทัศนคติและให้ความรู้แก่พนักงานทุกคนมากเพียงพอ ทำให้ผู้พิการอาจรู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่งและปรับตัวเข้าสังคมปกติได้ยาก จึงจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรและสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะเข้าใจ ไม่ให้ใครรู้สึกแปลกแยกแม้จะแตกต่าง สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้พิการในระดับที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป บริษัทยุคใหม่จึงควรปฏิบัติต่อผู้พิการเสมือนบุคลากรคนหนึ่งที่สามารถเติบโต พัฒนาทักษะเฉพาะด้านตามความชอบและถนัดของตนได้ คอยส่งเสริมให้พวกเขาเข้าอบรมเพิ่มทักษะ จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงาน มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามความสามารถและความรับผิดชอบ
นอกจากนี้ Vulcan Coalition ยังมองไปถึงอนาคตว่า Data is a new oil. บริษัทจึงมีนโยบายแบ่งปันสัดส่วนรายได้ 30% ให้แก่ผู้พิการตลอดชีวิต ตามปริมาณข้อมูลที่แต่ละคนเก็บสะสมลง Data Library อีกด้วย เป็นทางออกที่ยั่งยืนที่ช่วยสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้พิการ แม้ในวันที่พวกเขาไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม
ขอบคุณข้อมูล https://creativetalklive.com/